One Only Way

Bhikkhus, this is the one and the only way
for the purification (of the minds) of beings,
for overcoming sorrow and lamentation,
for the cessation of physical and mental pain,
for attainment of the Noble Path.
and for the realization of Nibbana .
That (only way) is the four satipatthanas .
Powered By Blogger

คำนำ

One Only Way เป็น Blog เพื่อการเรียนรู้ มหาสติปัฏฐานสูตร

ผู้เรียบเรียงได้นำมหาสติปัฏฐานสูตร จากพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ มาจัดย่อหน้า วรรคตอนใหม่ เพื่อให้สามารถอ่าน ทำความเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ได้นำฉบับแปลภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส มาเทียบเคียงกับภาษาไทย เพื่อเพิ่มความเข้าใจ ท่านที่เคยอ่านสูตรนี้ โปรดดูและพิจารณาโครงสร้างของมหาสติปัฏฐานสูตรด้วย
ผู้เรียบเรียงขอกราบนมัสการด้วยความเคารพและระลึกในพระคุณของท่านผู้แปลทุกท่าน
ขอขอบพระคุณในทุกความเห็น คำแนะนำ และการชี้ข้อผิดพลาดที่มีอยู่ ทั้งนี้เพื่อนำมาเป็นข้อมูลสำคัญในการปรับปรุงแก้ไข และเป็นประโยชน์ในการร่วมกันเรียนรู้มหาสติปัฏฐานสูตรตลอดไป


________________________________________________
Powered By Blogger

ทำไมมนุษย์ทุกคนควรเรียนรู้ มหาสติปัฏฐานสูตร ?

  • มหาสติปัฏฐานสูตร เป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จักนำตน พ้นจากความชั่ว ไปสู่ความดี และมีใจผ่องใสในท่ีีสุด พระพุทธองค๋ได้ทรงแสดงไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่วัตถุประสงค์ เป้าหมาบ วิธีการ และผลท่ีจะได้รับ ในกำหนดเวลาน้อยที่สุดเพียง 7 วัน เท่านั้น
  • " ก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๗ วัน เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
  • พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑ หรือ เมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑
  • จากข้อ [๓๐๐] มหาสติปัฏฐานสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐.
  • ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่เต่าตาบอด ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอเข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นเป็นของยาก."
  • พระผู้มีพระภาค " ฉันนั้นภิกษุทั้งหลาย การได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในโลกเป็นของยาก ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลกก็เป็นของยาก
  • ความเป็นมนุษย์นี้เขาได้แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติแล้วในโลก และธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วก็รุ่งเรืองอยู่ในโลก
  • ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละเธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
  • จาก ข้อ[๑๗๔๔] ว่าด้วยการได้ความเป็นมนุษย์ยาก พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค

การได้ความเป็นมนุษย์ยาก

การได้ความเป็นมนุษย์ยาก
โปรดคลิกที่รูป

เรามีเวลาเหลือ

หากเรามีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ เรามีเวลาเหลือ




ชีวิตนั้นสั้นนักหนา สิ้นสุดได้ทุกขณะ มรณะมาเมื่อใดมิรู้ได้

Powered By Blogger

ความเร็วจิต

  • ลัดนิ้วมือเดียว จิตเกิดดับ แสนโกฏิขณะ ( 1 โกฏิ = 10 ล้าน)
  • ลัดนิ้วมือเดียว ระยะประมาณ 9 ซม. กินเวลาประมาณ 1 วินาที
  • แสนโกฏิ = 1,000,000,000,000 ( 1 ล้าน ล้าน )
  • 1 GHz = 1,000,000,000 Hz = 1,000 MHz
  • ความเร็วจิต = 1,000 GHz
  • เครื่องคอมพืวเตอร์ที่ใช้กันอยู่มีความเร็วท่ีสุด 3 GHz
  • ความเร็วแสง = 300,000  กม./ วินาที
  • ความเร็วจิต = 90,000,000  กม./ วินาที
  • เร็วกว่าแสง 300 เท่า [ ผิดถูก ท่านผู้รู้ โปรดพิสูจน์ด้วย ]

21 มิถุนายน 2550

โครงสร้าง มหาสติปัฏฐานสูตร


โครงสร้าง มหาสติปัฏฐานสูตร
สร้างจากรูปแบบและข้อความที่เหมือนกันในทุกบรรพที่มีอยู่แล้ว ซึ่งได้ทรงแสดงไว้ตามลำดับ
ส่วนล่างเป็นอุทเทสวาระ เป็นฐาน ส่วนบนเป็นการกำหนดรู้ การพิจารณาและผลที่เกิดตามมา


คำรับรองในผล 2 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งเจริญสติปัฏฐานทั้ง 4 นี้
อย่างนี้ แม้ในเวลาเพียง 7 วัน

( โปรดคลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จากการวิเคราะห์ สังเคระห์ และการทำความเข้าใจตามข้อขยายและข้อธรรมะที่ท่านผู้เขียนได้เรียบเรียงไว้ นอกจากมหาสติปัฏฐานสูตร4 และยังมีการอธิบายในเรื่องอื่นๆเช่นสังขารไม่เที่ยง การบรรยายเหล่านี้ อีกทั้งการนำเสนอโครงสร้างที่มีความชัดเจน ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าใจถึงหลักธรรมได้ง่ายขึ้น อยากจะขอเสนอความคิดเห็น การจะศึกษาธรรมะให้เข้าใจได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ จะต้องเอาใจตัวเองไปนั่งอยู่ตรงข้อธรรมนั้นๆ พิจารณาโดยแยบคาย ตระหนักให้รู้ชัด สมัยที่ดิฉันเริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ๆ ก็ทำอย่างนี้ พูดไปก็คล้ายงานศิลปะเอาใจใส่ศึกษา แบบที่เขาเรียกว่าอินน์กับธรรมะ อ่าน ตระหนักหรือสำเหนียก เมื่อรู้ข้อความธรรมะข้อที่ได้อ่าน ก็นำมาไตร่ตรองเรื่อยๆ พิจารณาจนคิดว่าสุดปัญญาคือ มันรู้ถึงที่สุด แล้วมาลองถามปราชณ์ทั้งหลาย ไตร่ตรองดูนี่เราเข้าใจแล้วหรือยัง มีอะไรควรจะรู้เพิ่ม ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ต้องกระทำการฝึกฝนตนเองต่อข้อธรรมที่ศึกษาโดยตลอด เพื่อประโยชน์ของท่านเอง หลังจากศึกษาแล้วก็ต้องลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่สักแต่ว่ารู้แต่ทำไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นเราจะมาปฏิบัติธรรมกันเพื่ออะไร ก่อนจะจบความคิดเห็นอยากจะทิ้งท้ายว่า ต้องมีความเพียร มีขันติมีความใฝ่รู้ กระตือรือร้น ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าท่านจะศึกษาสิ่งใดขอให้ท่านจดจ่อและใส่ใจด้วย ที่สำคัญที่สุดคือการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้อยู่ในศีลเสมอ บางครั้งบางท่านทำไม่ได้ทั้งหมด ก็ขอให้มีความเพียรทำให้ได้ดีที่สุด บางทีศีลก็ขึ้นกับหิริโอตัปปะ ถ้าใจเราละเอียดมากแต่ก็ยังผิดศีลก็มีโทษทั้งนี้อยู่ความเกรงกลัวต่อบาปของเรา. จิตมันฟ้องเองว่าเราผิด ไม่ต้องให้ใครประฌาม เรานั่นแหละประฌามตัวเอง มากน้อยใจเราจะรู้เอง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ปฏิบัติ ขอให้ท่านมีความเจริญก้าวหน้าและมีดวงตาเห็นธรรม สวัสดี