
โครงสร้าง มหาสติปัฏฐานสูตร
สร้างจากรูปแบบและข้อความที่เหมือนกันในทุกบรรพที่มีอยู่แล้ว ซึ่งได้ทรงแสดงไว้ตามลำดับ
ส่วนล่างเป็นอุทเทสวาระ เป็นฐาน ส่วนบนเป็นการกำหนดรู้ การพิจารณาและผลที่เกิดตามมา

คำรับรองในผล 2 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งเจริญสติปัฏฐานทั้ง 4 นี้
อย่างนี้ แม้ในเวลาเพียง 7 วัน
( โปรดคลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
1 ความคิดเห็น:
จากการวิเคราะห์ สังเคระห์ และการทำความเข้าใจตามข้อขยายและข้อธรรมะที่ท่านผู้เขียนได้เรียบเรียงไว้ นอกจากมหาสติปัฏฐานสูตร4 และยังมีการอธิบายในเรื่องอื่นๆเช่นสังขารไม่เที่ยง การบรรยายเหล่านี้ อีกทั้งการนำเสนอโครงสร้างที่มีความชัดเจน ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าใจถึงหลักธรรมได้ง่ายขึ้น อยากจะขอเสนอความคิดเห็น การจะศึกษาธรรมะให้เข้าใจได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ จะต้องเอาใจตัวเองไปนั่งอยู่ตรงข้อธรรมนั้นๆ พิจารณาโดยแยบคาย ตระหนักให้รู้ชัด สมัยที่ดิฉันเริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ๆ ก็ทำอย่างนี้ พูดไปก็คล้ายงานศิลปะเอาใจใส่ศึกษา แบบที่เขาเรียกว่าอินน์กับธรรมะ อ่าน ตระหนักหรือสำเหนียก เมื่อรู้ข้อความธรรมะข้อที่ได้อ่าน ก็นำมาไตร่ตรองเรื่อยๆ พิจารณาจนคิดว่าสุดปัญญาคือ มันรู้ถึงที่สุด แล้วมาลองถามปราชณ์ทั้งหลาย ไตร่ตรองดูนี่เราเข้าใจแล้วหรือยัง มีอะไรควรจะรู้เพิ่ม ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ต้องกระทำการฝึกฝนตนเองต่อข้อธรรมที่ศึกษาโดยตลอด เพื่อประโยชน์ของท่านเอง หลังจากศึกษาแล้วก็ต้องลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่สักแต่ว่ารู้แต่ทำไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นเราจะมาปฏิบัติธรรมกันเพื่ออะไร ก่อนจะจบความคิดเห็นอยากจะทิ้งท้ายว่า ต้องมีความเพียร มีขันติมีความใฝ่รู้ กระตือรือร้น ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าท่านจะศึกษาสิ่งใดขอให้ท่านจดจ่อและใส่ใจด้วย ที่สำคัญที่สุดคือการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้อยู่ในศีลเสมอ บางครั้งบางท่านทำไม่ได้ทั้งหมด ก็ขอให้มีความเพียรทำให้ได้ดีที่สุด บางทีศีลก็ขึ้นกับหิริโอตัปปะ ถ้าใจเราละเอียดมากแต่ก็ยังผิดศีลก็มีโทษทั้งนี้อยู่ความเกรงกลัวต่อบาปของเรา. จิตมันฟ้องเองว่าเราผิด ไม่ต้องให้ใครประฌาม เรานั่นแหละประฌามตัวเอง มากน้อยใจเราจะรู้เอง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ปฏิบัติ ขอให้ท่านมีความเจริญก้าวหน้าและมีดวงตาเห็นธรรม สวัสดี
แสดงความคิดเห็น